การปรับแทคติก รับ-รุก
การเล่น :: คือการเล่นในภาพรวมของทีมทั้งหมด
ความเร็วเกม : คือการเล่นบอลจากหน้าปากประตูตัวเองไปหน้าบ้านของเขา ซึ่งจะส่งผลต่อการต่อบอล ถ้าปรับเยอะ จะเหมาะกับเกมรับแล้วไปรุก ถ้าหากปรับน้อยจะเน้นการต่อบอลเท้าต่อเท้า
ส่งบอล : คือรูปแบบการส่งบอล ถ้าปรับน้อยจะส่งลูกสั้น เท้าต่อเท้า ถ้าหากปรับมาก จะเน้นการโยนบอลข้ามหัว และแทงหาช่อง ซึ่งมีความเสี่ยงสูงจะโดนดักบอล
ยืนตำแหน่ง : คือการยืนตำแหน่งของนักเตะ ถ้าเราเน้นการเล่นที่ไหลลื่น ก็ปรับอิสระ แต่จะเสียการยืนตำแหน่งของนักเตะอาจจะโดนสวนกลับได้ง่าย
เกมรุก :: รูปแบบเกมรุกของทีมเรา
ส่งบอล : คือการส่งบอลในเกมรุกของทีมเรา แล้วแต่ทีมว่านักเตะเราเหมาะกับการเล่นแบบไหน ถ้าหากเน้นการโยนบอล เปิดบอลก็ควรปรับเยอะ ถ้าเน้นต่อบอลก็ปรับน้อยๆครับ
เปิดบอล : คือการพาสบอลให้เพื่อนร่วมทีมเข้าทำ ถ้าเราปรับสัก 7-8 เมื่อได้เตะมุมจะไม่โยนเข้าแต่จะส่งบอล เพื่อเน้นการส่งบอลที่แน่นอน แต่ถ้าทีมเรามีตัวสูงๆ ก็ปรับสัก 10 ก็พอแล้วครับ
เข้าทำ : คือการจบสกอ การเจาะหาช่อง ถ้าเราเน้นการจบสกอที่แน่นอนก็ปรับแต่น้อยครับ ถ้าหากปรับมาก นักเตะของเราจะยิงไกลครับ นอกกรอกจุดโทษครับ ซึ่งมีความแม่นยำน้อย แล้วแต่นักเตะของเรา
ยืนตำแหน่ง : คือการยืนตำแหน่งนักเตะในเกมรุก สำหรับการรุกที่ส่งบอลเท้าต่อเท้าก็ควรปรับอิสระ เพราะนักเตะจะเข้าทำแบบหาช่องได้ดีกว่าครับ แต่ถ้าเราเล่นเองก็ปรับตามแผนละครับ
เกมรับ :: รูปแบบเกมรับของทีมเรา
การกดดัน : คือการที่กองหลังของเราหรือทั้งทีมเข้าไปประกบตัวของทีมอีกฝ่าย ถ้าเราปรับเยอะมาก สัก 85 ทีมก็จะเสียตำแหน่งและโดนกระชากหนีไปได้ง่ายครับควรปรับสัก 70-80 ครับแล้วแต่ทีมเราด้วย
ดุดัน : คือการเข้าประทะกัน ว่าจะเอาแบบหนักหรือเบา ไม่ควรปรับเยอะสำหรับเมเนเจอร์ เพราะเสี่ยงต่อการโดนใบแดงและจุดโทษ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับนิสัยนักเตะของเรา ผมแนะนำสัก 32-35 ครับ
การไล่บอล : คือการวิ่งแย่งบอลของนักเตะ ถ้าเราปรับไล่บอลมาก จะโดนคู่ต่อสู้พลิกบอลมายิ่งง่ายครับ ถ้าเราเจอทีมที่ต่อบอลดีมากๆ ควรปรับสัก 30-33 ครับ เพราะทีมเขาจะต่อบอลไปมาแล้วทีมเราจะหาจังหวะเองครับ แต่ถ้าเจอทีมที่เน้นการยิงไกลก็ปรับสัก 35-40 ครับ ไม่งั้นจะมีช่องให้เขายิง
แนวการป้องกัน : คือการแนวการรับของกองหลังว่าเมื่อเจอเกมรุกแล้วจะยืนอย่างไร ไม่ควรจะปรับเชคล้ำหน้าเพราะจะหลุดไปยิงได้ง่ายครับ ควรจะปรับอิสระ เพราะนักเตะคนไหนที่สามารถแย่งบอลได้จะเข้ามาแย่งเลยละ
แนวโน้มของทีม :: เป็นจุดสำคัญ
เพราะอะไรถึงสำคัญ เพราะเป็นการเล่นโดยรวม ถ้าทีมเราเน้นรับแล้วรุกก็ปรับ ป้องกัน กองหลังเราจะไม่ค่อยร่วมบุก จะโดนสวนกลับได้ยาก ถ้าเราปรับรุก หรือ พับกระดานบุก กองหลังจะร่วมบุกแล้วจะเสียบอลโดนยิงได้ง่าย แต่ข้อดีก็มีอยู่ คือทีมเราจะเน้นบุกเพื่อเอาแต้มคืนมา ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้เล่นนะครับ
สุดท้ายการเล่นเมเนเจอร์ที่ดี ต้องมี 3 สิ่งที่เข้ากันได้อย่างดี
1.นักเตะ
2.แผนการเล่น
3.แทคติก
3 สิ่งนี้ ถ้าดีแต่อย่างใดอย่างหนึ่งก็เอาชนะได้ยากครับ ทุกอย่างต้องไปด้วยกัน ยังไงก็ลองไปปรับดูกับทีมคุณดูนะครับ